วิดีโอฉบับเต็ม https://is.gd/eccMCO
⚫️ ของขวัญแต่งงานจากอากู๋ : 1- “คุณอาย” กับ “คุณซัน” วางแผนจะแต่งงานกันปลายปี 2566 “อากู๋” (ลุง - พี่ชายของแม่คุณซัน) จึงยกบ้านย่านรามอินทราให้เป็นของขวัญแต่งงาน 2- บ้านหลังนี้อากู๋ซื้อไว้ตั้งแต่ปี 2534 หรือเมื่อ 32 ปีที่แล้ว มีโฉนดถูกต้องทุกอย่าง แต่ไม่มีคนเข้าไปอยู่ ช่วง 10 ปีแรกอากู๋ไปดูแลอยู่บ้าง แต่หลังจากนั้นด้วยความที่งานยุ่งก็เลยไม่ได้เข้าไปอีก
ผู้บุกรุก
:
3- คุณอายกับคุณซันขับรถไปดูบ้าน พบว่ามีคนเข้าไปใช้บ้านและดัดแปลงสภาพบ้านหลายอย่าง เช่น ตัดต้นไม้หน้าบ้านทิ้งหมด ต่อเติมหลังคาหน้าบ้าน เปลี่ยนประตูรั้วใหม่ ส่วนภายในบ้านมีวัสดุก่อสร้าง เช่น ท่อพีวีซี วางระเกะระกะ
4- หลังบ้านมีการทุบปูนออกแล้วเจาะผนังใส่ประตู-หน้าต่าง ใช้เป็นครัวทำอาหาร มีการเอาถังแก๊ส เครื่องครัว และโต๊ะตัวยาวมาวาง
5- นอกจากนี้ยังเชื่อมพื้นที่ด้านหลังเข้ากับบ้านหลังข้าง ๆ ด้วย ซึ่งที่จริงบ้าน 2 หลังนี้ไม่ได้อยู่ติดกันเสียทีเดียว เพราะทางหมู่บ้านทำที่กลับรถคั่นกลางไว้ แต่ผู้บุกรุกใช้เป็นที่จอดรถส่วนตัวจนคนในหมู่บ้านกลับรถไม่ได้อีก
6- ต่อมาทราบว่าบ้านข้าง ๆ เป็นสำนักงานบริษัทรับเหมาก่อสร้าง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงมีวัสดุก่อสร้างอยู่เต็มบ้านอากู๋ ตรงประตูหน้าบ้านเขียนป้ายติดไว้ว่า “ห้ามจอดรถขวางประตูเข้า-ออก เนื่องจากมีการขนของในช่วงเวลา 7.30 – 18.00 ขอความเห็นใจกันบ้าง” แสดงให้เห็นว่ามีการใช้บ้านหลังนี้ขนของเข้า-ออกตลอดวัน
7- เดิมทีอากู๋ไม่ต้องการเอาผิดใคร ขอแค่ให้ย้ายออกไปก็พอ แต่ปรากฏมีชายหญิงกลุ่มหนึ่งออกมาเจรจากับคุณออย-คุณซันว่าจะขอซื้อบ้านหลังนี้ แต่ถ้าไม่ขายให้ก็ต้องจ่ายค่าต่อเติมบ้านให้เขา
—————
บุกรุกด้วยความหวังดี
:
8- ต่อมามีผู้หญิงชื่อ “นิด” (นามสมมุติ) อายุ 49 ปี แสดงตัวว่าเป็นคนที่เข้ามาต่อเติมและใช้บ้านของอากู๋ นิดบอกว่าบ้านของเธออยู่ตรงข้ามบ้านอากู๋ และเธอทำงานอยู่ที่บริษัทรับเหมาข้าง ๆ นั่นเอง คาดว่าเธออยู่ในระดับหัวหน้างาน เพราะมีคนเรียกเธอว่า “หัวหน้า”
9- นิดบอกว่าที่เข้าไปปรับปรุงบ้านโดยพลการก็เพราะหวังดี เดิมทีเธออยากซื้อบ้านหลังนี้ แต่ตามหาเจ้าของบ้านทุกวิถีทางก็ไม่พบ ช่วงปี 2554 น้ำท่วม เธอเป็นห่วงว่าจะมีงูเงี้ยวเขี้ยวขอเข้าไปอยู่ในบ้าน หรือมีขยะลอย จึงเข้าไปดู
10- เมื่อเข้าไปดูภายในบ้านแล้ว นิดก็ตัดสินใจว่าจะดูแลบ้านให้ จึงเริ่มรีโนเวทบ้าน เธออ้างว่าเห็นกำแพงหลังบ้านมีรอยร้าว จึงหวังดีทุบทิ้งให้ จนเชื่อมเป็นส่วนเดียวกับพื้นที่ของบริษัท
11- จากนั้นเจาะผนังเพื่อทำประตู ดัดแปลงเป็นครัว พนักงานบริษัทจะได้มานั่งทานข้าวกลางวันที่นี่ เพราะไหน ๆ เธอก็ตั้งใจจะซื้อบ้านหลังนี้อยู่แล้ว แล้วไปขอเจ้านายต่อน้ำต่อไฟจากบริษัทมาใช้ เจ้านายก็อนุญาตเพราะเห็นว่าพนักงานมาทานข้าวที่นี่
12- ส่วนวัสดุก่อสร้างที่วางอยู่ในบ้าน นิดอ้างว่าเป็นของผู้รับเหมาของบริษัท เอามาฝากไว้ชั่วคราวเท่านั้น ซึ่งเธอก็อนุญาตเพราะไหน ๆ ก็จะซื้อบ้านอยู่แล้ว
13- นิดบอกว่าเธอรอเจ้าของบ้านมาตลอด 21 ปี และคาดหวังว่าสักวันเขาจะเดินเข้ามาคุยด้วย จะได้ขอซื้อต่อด้วยความบริสุทธิ์ใจ
—————
หวังครอบครองปรปักษ์
:
14- ตอนแรกนิดบอกว่าเข้ามาดูแลบ้านให้เพราะหวังดี และจะขอซื้อบ้านต่อ แต่คุยไปคุยมากลับบอกว่าจะฟ้องครอบครองปรปักษ์
15- ครอบครองปรปักษ์ คือ การแย่งกรรมสิทธิ์โดยการเข้าไปครอบครองบ้านหรือที่ดินทำกินอย่างสงบเปิดเผยเป็นระยะเวลาติดต่อกันเกิน 10 ปี โดยไม่มีใครคัดค้านหรือโต้แย้งสิทธิ์ กฎหมายนี้มีมาแต่โบราณ เพื่อส่งเสริมให้คนใช้ประโยชน์จากอสังหาริมทรัพย์ ไม่ปล่อยให้รกร้างไม่ดูแล
16- พอนิดบอกว่าจะฟ้องครอบครองปรปักษ์ คุณอาย-คุณซันจึงไปปรึกษาทนายความและร้องสื่อจนกลายเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศ ทำให้ทัวร์ลงนิดหนักมาก เพราะคนมองว่านิดอยากได้ของคนอื่นฟรี ๆ
17- ข่าวช่อง 8 เรียกนิดว่า “นิด ใจพระ” หมายถึงใจบุญเหลือเกิน เข้าไปดูแลต่อเติมบ้านให้คนอื่นโดยพลการ สร้างความไม่พอใจให้นิด จนมีข่าวออกมาว่านิดจะฟ้อง “พุทธ อภิวรรณ” ผู้ประกาศข่าวช่อง 8
—————
แฉใช้บ้านเป็นบ่อนป๊อกเด้ง
:
18- กันยายน 2566 “โหนกระแส” เชิญคุณอายกับคุณซันมาออกรายการ และโฟนอินสัมภาษณ์นิด ปรากฏว่านิดเปลี่ยนท่าที บอกว่าจะไม่ฟ้องและยอมรับผิดที่บุกรุกบ้าน พร้อมยื่นข้อเสนอว่า
หนึ่ง: ถ้าอากู๋ต้องการบ้านคืนก็พร้อมย้ายของออกให้ ถ้าอยากได้ประตู-หน้าต่างเดิมก็จะไปหามาให้ ถึงแม้ว่ามันจะถูกปลวกกินไปหมดแล้วก็ตาม
สอง: ถ้าอากู๋จะให้เช่าบ้านก็ยินดี
สาม: ถ้าจะขายก็ยินดีซื้อในราคาที่เหมาะสม และบอกว่าราคาบ้านแถวนี้อยู่ที่ 1.2 – 1.3 ล้านบาท
19- โหนกระแสเปิดคลิปเสียงคนในหมู่บ้าน ชายคนนี้เล่าว่า บ้านของอากู๋ถูกทำเป็นบ่อนประจำหมู่บ้าน แม้ไม่ใช่บ่อนใหญ่โต แต่ก็มีคนแวะเวียนเข้าไปเล่นป๊อกเด้งทุกวัน จนมีคนร้องเรียน หลังบ้านมีการทำอาหารและนั่งกินกันเหมือนร้านอาหารตามสั่ง แล้วยังบอกอีกว่า “คนกลุ่มนี้ร้าย ยึดครองบ้านมานาน แล้วยังยึดที่กลับรถไปทำที่จอดรถส่วนตัวด้วย คนอื่นกลับรถไม่ได้”
20- หนุ่ม กรรชัย ถามนิดว่าใช้บ้านอากู๋เป็นที่เล่นป๊อกเด้งจริงหรือไม่ นิดบอกปัดว่าไม่ขอคุยเรื่องนี้
21- ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าจริง ๆ แล้วบริษัทนั้นเป็นของเธอเอง นิดยืนยันว่าเธอเป็นแค่พนักงานคนหนึ่งเท่านั้น แต่ไม่ขอบอกว่าใครเป็นเจ้าของ
—————
“พี่ไม่อยากได้ของคนอื่นฟรี ๆ”
:
22- บทสรุปในวันนั้นจบลงที่นิดบอกว่าพร้อมคืนบ้านให้ “พี่ไม่อยากได้ของคนอื่นฟรี ๆ พี่จะเอาเงินที่เก็บสะสมมาซื้อบ้านหลังนี้ด้วยเงินของพี่เอง พี่ไม่เคยคิดจะเอาของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง หรือจะโดยใช้ข้อกฎหมายอะไรก็ตาม พี่เป็นคนไทยที่ยึดหลักกฎหมายทุกอย่าง จะไม่กลับขาวเป็นดำ กลับดำเป็นขาว พี่ยอมรับผิดทุกอย่างและจะไม่สู้คดี” นิดกล่าวในรายการ
23- จากนั้นคุณอายกับคุณซันก็ซื้อกุญแจไปล็อกประตูบ้านไว้อย่างแน่นหนา ทั้งประตูบ้านและประตูรั้ว เพื่อไม่ให้ใครเข้ามาใช้ประโยชน์ได้อีก
24- ทุกอย่างดูเหมือนจะจบลงด้วยดี แต่แล้วในเดือนพฤศจิกายน 2566 นิดกลับยื่นฟ้องครอบครองปรปักษ์บ้านหลังนี้ อากู๋ก็ส่งทนายไปยื่นคัดค้านต่อศาล
—————
ผู้บุกรุก (อีกครั้ง)
:
25- ในระหว่างที่คดียังอยู่ในชั้นศาล กุมภาพันธ์ 2567 คุณอายกับคุณซันเข้าไปดูบ้านก็ต้องช็อกเมื่อพบว่าบ้านถูกงัดเข้าไปใช้พื้นที่อีกครั้ง คราวนี้บ้านถูกเปิดเป็นร้านอาหารตามสั่ง มีการจัดโต๊ะ-เก้าอี้ให้ลูกค้านั่งทานในบ้านด้วย ( มีภาพในคอมเมนต์)
26- นอกจากนี้ยังติดป้ายหน้าบ้านว่า “บ้านหลังนี้ข้าพเจ้าได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ตามกฎหมาย บุคคลใดเข้ามากระทำการใด ๆ ในที่ดินและบ้านหลังนี้ ถือว่ามีความผิดฐานบุกรุก จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน”
27- คุณอายโทรถามทนายความของนิด ทนายบอกว่านิดไม่เคยสละสิทธิ์บ้านหลังนี้ แต่ตอนนั้นถูกประณามจนตกเป็นจำเลยสังคมจึงพูด ๆ ไปอย่างนั้นเองเพราะไม่อยากมีปัญหา ยอมขนของออกเพราะนักข่าวกดดัน ยืนยันว่านิดได้กรรมสิทธิ์บ้านหลังนี้ตามกฎหมายโดยการครอบครองปรปักษ์
28- คุณอายตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศจาก Google Earth พบว่าบ้านถูกดัดแปลงในปี 2560 จึงเชื่อว่านิดยังเข้าไปใช้บ้านไม่ถึง 10 ปี ตามที่กล่าวอ้าง
29- คุณอายกับคุณซันยืนยันว่าจะต่อสู้และดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ในขณะที่คนไทยจับตามองว่าศาลจะตัดสินคดีนี้อย่างไร หลายคนกังวลว่าต่อไปจะมีคนทำอย่างนิดมากขึ้นหรือไม่